ความหมาย
การรู้สารสนเทศ หมายถึง การรู้ความจำเป็นของสารสนเทศ การเข้าถึงแหล่งสารสนเทศ การพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การวิเคราะห์และประเมินสารสนเทศ การจัดระบบประมวลสารสนเทศ การประยุกต์ใช้สารสนเทศเพื่อการตัดสินใจที่มีประสิทธิผลและสร้างสรรค์
ความเป็นมา
การรู้สารสนเทศเป็นคำที่พบในบริบทต่าง ๆทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศอังกฤษ ซึ่งในประเทศอังกฤษนั้นได้ใช้คำว่า ทักษะสารสนเทศ การรู้สารสนเทศหรือทักษะสารสนเทศเกิดขึ้นในราวต้นคริสต์ศักราช 1974 และได้ใช้คำทั้งสองร่วมกันและบางครั้งได้ใช้ในความหมายเดียวกัน โดยที่การรู้สารสนเทศครอบคลุม ความสามารถในการเข้าถึง การกำหนด การประเมินและการใช้สารสนเทศจากแหล่งต่าง ๆได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
องค์ประกอบของการรู้สารสนเทศ
-ความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศ ประกอบด้วยความสามารถทางกายภาพและสติปัญญาในการเข้าถึงสารสนเทศ
-ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ ประกอบด้วยความสามารถในการสังเคราะห์หรือตีความสามารถตัดสินใจได้ว่าแหล่งสารสนเทศใดมีความน่าเชื่อถือ
-ความสามารถในการใช้สารสนเทศ ประกอบด้วยความเข้าใจประเด็นทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับสารสนเทศ
คุณลักษณะและความสามารถในการรู้สารสนเทศ
-ตระหนักถึงความจำเป็นของสารสนเทศ
-สามารถกำหนดขอบเขตของสารสนเทศที่จำเป็น
-เข้าถึงสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-ประเมินสารสนเทศและแหล่งสารสนเทศได้
-นำสารสนเทศที่คัดสรรแล้วสู่พื้นฐานความรู้เดิม
-มีประสิทธิภาพในการใช้สารสนเทศได้ตรงตามวัตถุประสงค์
-เข้าใจประเด็นทางเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรมและกฏหมายในการใช้สารสนเทศ
-เข้าถึงและการใช้สารสนเทศได้อย่างมีจริยธรรมและถูกกฏหมาย
-แบ่งประเภทจัดเก็บและสร้างความเหมาะสมให้กับสารสนเทศที่รวบรวมไว้
-ตระหนักว่าการรู้สารสนเทศช่วยให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต
มาตรฐานของผู้รู้สารสนเทศ
มาตรฐานที่ 1 ผู้เรียนเข้าถึงสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
มาตรฐานที่ 2 ผุ้เรียนประเมินสารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณ
มาตรฐานที่ 3 ผู้เรียนให้สารสนเทศอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ การเรียนรู้อย่างอิสระ
มาตรฐานที่ 4 ผู้เรียนมีอิสระในการเรียนรู้ ต้องรู้สารสนเทศ และแสวงหาสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับความสนใจ
มาตรฐานที่ 5 ขั้นประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล
มาตรฐานที่ 6 ผู้เรียนที่มีอิสระในการเรียนรู้
มาตรฐานที่ 7 ผู้เรียนสร้างประโยชน์ต่อชุมชนแห่งการเรียนรู้และสังคมตระหนักถึงความสำคัญของสารสนเทศต่อสังคมประชาธิปไตย
มาตรฐานที่ 8 ผู้เรียนสร้างประโยชน์ต่อชุมชนแห่งการเรียนรู้และสังคมและฝึกฝนให้มีพฤติกรรมที่มีจริยธรรม
แนวทางการส่งเสริมการรู้สารสนเทศ
เเนวทางการส่งเสริมการรู้สารสนเทศมีหลายแนวทาง หากแนวทางที่มีรูปธรรมชัดเจนจากประเทศสหรัฐอเมริกา คือ TheBig 6 Skills Modle ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยนักการศึกษาชื่อ Mike Eisenberg และ Bog Berkowitz (2001-2006)โดยได้นำไปใช้ตั้งเเต่ระดับอนุบาลถึงระดับอุดมศึกษา เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย มีการนำไปประยุกต์เพื่อการเรียนการสอนทักษะสารสนเทศในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ
ประโยชน์ของการรู้สารสนเทศ
จากผลการวิจัยการพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างการรู้สารสนเทศสำหรับสังคมไทย พบว่ารูปแบบการเสริมสร้างการรู้สารสนเทศ 4 ขั้นตอน คือ กำหนดภารกิจ ตรงจุดเข้าถึงแหล่ง ประเมินผลสารสนเทศ และบูรณาการวิถีการใช้งานได้ถูกนำไปใช้โดยส่วนใหญ่ผู้สอนเริ่มเข้าใจและให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างการรู้สารสนเทศให้แก่ผู้เรียนของตนและพยายามคิดค้นกลยุทธ์ในการเสริมสร้างการรู้สารสนเทศให้เหมาะสมกับธรรมชาติและบริบทของแต่ละท้องถิ่น
วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
เทคโนโลยีสารสนเทศ
องค์ประกอบของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
พื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศสืบเนื่องมาจากการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นอาจกล่าวได้ว่าประกอบขึ้นจากเทคโนโลยีสองสาขาหลัก คือ
-เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถจดจำข้อมูลต่างๆ และปฏิบัติการตามคำสั่งที่บอกเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้ คอมพิวเตอร์นั้นประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อเชื่อมเรียกว่าฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์นึ้จะต้องทำงานร่วมกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกว่าซอฟต์แวร์
-เทคโนโลยีสื่่อสารโทรคมนาคม
เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมใช้ในการติดต่อสื่อสารรับ/ส่งข้อมูลจากที่ไกล ๆ เป็นการส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือที่อยู่ห่างไกลกันซึ่งจะช่วยให้การเผยแพร่ข้อมูลหรือสารสนเทศไปยังผู้ใช้ในแหล่งต่าง ๆ เป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วน และทันการณ์
วิวัฒนการของเทคโนโลยีสารสนเทศ
วิวัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศจายุคอนาลอกสู่ยุคดิจิตอลนั้นมีความเป็นมาที่ยาวนานมากกว่าที่จะมาเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันนึ้ บางช่วงใช้เวลาในการค้นคิดนานเป็นพันปีโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงบางช่วงก็เร็วมาก
การวิวัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีแบ่งเป็น 2 ด้านที่ควบคู่กันมา คือ วิวัฒนาการทางด้านคอมพิวเตอร์และวิวัฒนาการทางด้านการสื่อสาร
พื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศสืบเนื่องมาจากการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นอาจกล่าวได้ว่าประกอบขึ้นจากเทคโนโลยีสองสาขาหลัก คือ
-เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถจดจำข้อมูลต่างๆ และปฏิบัติการตามคำสั่งที่บอกเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้ คอมพิวเตอร์นั้นประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อเชื่อมเรียกว่าฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์นึ้จะต้องทำงานร่วมกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกว่าซอฟต์แวร์
-เทคโนโลยีสื่่อสารโทรคมนาคม
เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมใช้ในการติดต่อสื่อสารรับ/ส่งข้อมูลจากที่ไกล ๆ เป็นการส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือที่อยู่ห่างไกลกันซึ่งจะช่วยให้การเผยแพร่ข้อมูลหรือสารสนเทศไปยังผู้ใช้ในแหล่งต่าง ๆ เป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วน และทันการณ์
วิวัฒนการของเทคโนโลยีสารสนเทศ
วิวัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศจายุคอนาลอกสู่ยุคดิจิตอลนั้นมีความเป็นมาที่ยาวนานมากกว่าที่จะมาเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันนึ้ บางช่วงใช้เวลาในการค้นคิดนานเป็นพันปีโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงบางช่วงก็เร็วมาก
การวิวัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีแบ่งเป็น 2 ด้านที่ควบคู่กันมา คือ วิวัฒนาการทางด้านคอมพิวเตอร์และวิวัฒนาการทางด้านการสื่อสาร
วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
การจัดการสารสนเทศ
ความหมายการจัดการสารสนเทศ
การจัดการสารสนเทศ หมายถึง การผลิต จัดเก็บ ประมวลผล ค้นหาและเผยแพร่สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสารสนเทศ
ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศ
การจัดการสารสนเทศในภาวะที่สังคมมีสารสนเทศเกิดขึ้นมากมายโดยการจัดเป็นระบบสารสนเทศต่าง ๆ เพื่อการใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการ
-ความสำของการจัดการสารสนเทศต่อบุคคล
การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคในด้านการดำรงชีวิตประจำวัน การศึกษา และการทำงานประกอบอาชีพต่าง ๆ
-ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อองค์การ
การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อองค์การในด้านการบริหารจัดการ การดำเนินงาน และกฏหมาย
พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศ
การจัดการสารสนเทศก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ได้กระทำมาเป็นระยะเวลายาวนานนับแต่รู้จักผู้คิดค้นการขีดเขียยน บันทึกข้อมูล การจัดการสารสนเทศโดยทั่วไปแบ่งอย่างกว้าง ๆ ได้เป็น 2 ยุค เป็นการจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ และการจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์
แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการสารสนเทศ
การจัดการสารสนเทศในอดีตมักมุ่งที่การจัดเก็บสารสนเทศเพื่อการเรียกใช้อย่างง่าย เป็นการจัดเก็บจัดเรียงตามประเภทสื่อที่ใช้บันทึกหรือตามขนาดใหญ่เล็กของเอกสารรูปเล่มเป็นต้น การจัดการสารสนเทศเป็นทั้งการจัดการการผลิต รวบรวม จัดเก็บ และการค้นเพื่อใช้ได้อย่างสะดวกมีระบบที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
-ขอบเขตของการจัดการสารสนเทศ
เป็นการใช้หลักของการจัดการเพื่อการจัดหา การจัดโครงสร้างการควบคุม การเผยแพร่และการใช้สารสนเทศดำเนินตามขั้นตอนหรือกระบวนการที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
ความต้องการที่จะปรับปรุงการจัดการสารสนเทศเป็นที่สนใจในหลาย ๆ องค์กรโดยอาจถูกผลักดันจากหลากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นความต้องการที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการทางธุรกิจ การปรับปรุงเพื่อให้ถูกต้องตามกฏระเบียบที่วางไว้รวมถึงความต้องการที่จะเปิดใช้บริการใหม่ ๆ ในหลายกรณี
การจัดการสารสนเทศ หมายถึง การผลิต จัดเก็บ ประมวลผล ค้นหาและเผยแพร่สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสารสนเทศ
ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศ
การจัดการสารสนเทศในภาวะที่สังคมมีสารสนเทศเกิดขึ้นมากมายโดยการจัดเป็นระบบสารสนเทศต่าง ๆ เพื่อการใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการ
-ความสำของการจัดการสารสนเทศต่อบุคคล
การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคในด้านการดำรงชีวิตประจำวัน การศึกษา และการทำงานประกอบอาชีพต่าง ๆ
-ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อองค์การ
การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อองค์การในด้านการบริหารจัดการ การดำเนินงาน และกฏหมาย
พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศ
การจัดการสารสนเทศก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ได้กระทำมาเป็นระยะเวลายาวนานนับแต่รู้จักผู้คิดค้นการขีดเขียยน บันทึกข้อมูล การจัดการสารสนเทศโดยทั่วไปแบ่งอย่างกว้าง ๆ ได้เป็น 2 ยุค เป็นการจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ และการจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์
แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการสารสนเทศ
การจัดการสารสนเทศในอดีตมักมุ่งที่การจัดเก็บสารสนเทศเพื่อการเรียกใช้อย่างง่าย เป็นการจัดเก็บจัดเรียงตามประเภทสื่อที่ใช้บันทึกหรือตามขนาดใหญ่เล็กของเอกสารรูปเล่มเป็นต้น การจัดการสารสนเทศเป็นทั้งการจัดการการผลิต รวบรวม จัดเก็บ และการค้นเพื่อใช้ได้อย่างสะดวกมีระบบที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
-ขอบเขตของการจัดการสารสนเทศ
เป็นการใช้หลักของการจัดการเพื่อการจัดหา การจัดโครงสร้างการควบคุม การเผยแพร่และการใช้สารสนเทศดำเนินตามขั้นตอนหรือกระบวนการที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
ความต้องการที่จะปรับปรุงการจัดการสารสนเทศเป็นที่สนใจในหลาย ๆ องค์กรโดยอาจถูกผลักดันจากหลากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นความต้องการที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการทางธุรกิจ การปรับปรุงเพื่อให้ถูกต้องตามกฏระเบียบที่วางไว้รวมถึงความต้องการที่จะเปิดใช้บริการใหม่ ๆ ในหลายกรณี
วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
บทบาทสารสนเทศกับสังคม
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการใช้ชีิวิตในสังคมปัจจุบัน
ในภาวะปัจจุบันสารสนเทศได้กลายเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ห้าที่มนุษย์เราขาดเสียมิได้ในการดำรงชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นสารสนเทศที่จำเป็นในการประกอบธุรกิจ ในการผลิตสินค้าและบริการ การบริหารการปกครองหรือจนถึงเรื่องเบา ๆ เรื่องไร้สาระ เป็นต้น
ดังนั้นสารสนเทศจึงมีหลากหลายรูปแบบและมีความสำคัญกับมนุษย์เป็นอย่างมาก
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาสังคม
เทคโนโลยีสารสนเทศจัดว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศของทุกประเทศมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในด้านการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการจัดให้บริการสังคมพื้นฐาน
เทคโนโลยีสารสนเทศจะมีผลกระทบต่อสังคมมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์จะเลือกใช้มันอย่างไรซึ่งในปัจจุบันมีการเปลี่ยนโฉมของเทคโนโลยีสารสนเทศไปมาก
สารสนเทศกับบุคคล
การพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดความต้องการและการใช้สารสนเทศของบุคคลเพิ่มมากขึ้นซึ่งมีการใช้สารสนเทศเพื่อทำให้เกิดความรู้และความเข้าใจเรื่องที่ตนเกี่ยวข้องและนำความรู้ความเข้าใจมาตัดสินใจแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง
สารสนเทศกับสังคม
-ด้านการศึกษา
การจัดการเรียนการสอนในปัจจุบันมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางโดยครูผู้สอนทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำช่วยเหลือและกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ค้นคว้าด้วยตนเองส่งผลให้สารสนเทศมีความสำคัญต่อการเรียนการสอนในทุกระดับการศึกษา
-ด้านสังคม
สารสนเทศช่วยพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์ช่วยพัฒนาบุคลิกภาพส่วนบุคคลให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข อีกทั้งช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
-ด้านเศรษฐกิจ
สารสนเทศมีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ที่เรียกว่า เศรษฐกิจบนฐานความรู้
-ด้านวัฒนธรรม
สารสนเทศเป็นรากฐานที่จำเป็นสำหรับความก้าวหน้าของอารยธรรม สารสนเทศช่วยสืบทอด ค่านิยม ทัศนคติ ศิลปะและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติ
บทบาทเทคโนโลยีสารสนเทศต่อการศึกษา
ขณะนี้เกือบทุกประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาคุณภาพประชาชนโดยเน้นที่การศึกษาโดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศบมาใช้และเน้นการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้เป็นระบบกลางที่มีราคาถูกเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชน
ในภาวะปัจจุบันสารสนเทศได้กลายเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ห้าที่มนุษย์เราขาดเสียมิได้ในการดำรงชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นสารสนเทศที่จำเป็นในการประกอบธุรกิจ ในการผลิตสินค้าและบริการ การบริหารการปกครองหรือจนถึงเรื่องเบา ๆ เรื่องไร้สาระ เป็นต้น
ดังนั้นสารสนเทศจึงมีหลากหลายรูปแบบและมีความสำคัญกับมนุษย์เป็นอย่างมาก
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาสังคม
เทคโนโลยีสารสนเทศจัดว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศของทุกประเทศมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในด้านการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการจัดให้บริการสังคมพื้นฐาน
เทคโนโลยีสารสนเทศจะมีผลกระทบต่อสังคมมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์จะเลือกใช้มันอย่างไรซึ่งในปัจจุบันมีการเปลี่ยนโฉมของเทคโนโลยีสารสนเทศไปมาก
สารสนเทศกับบุคคล
การพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดความต้องการและการใช้สารสนเทศของบุคคลเพิ่มมากขึ้นซึ่งมีการใช้สารสนเทศเพื่อทำให้เกิดความรู้และความเข้าใจเรื่องที่ตนเกี่ยวข้องและนำความรู้ความเข้าใจมาตัดสินใจแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง
สารสนเทศกับสังคม
-ด้านการศึกษา
การจัดการเรียนการสอนในปัจจุบันมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางโดยครูผู้สอนทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำช่วยเหลือและกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ค้นคว้าด้วยตนเองส่งผลให้สารสนเทศมีความสำคัญต่อการเรียนการสอนในทุกระดับการศึกษา
-ด้านสังคม
สารสนเทศช่วยพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์ช่วยพัฒนาบุคลิกภาพส่วนบุคคลให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข อีกทั้งช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
-ด้านเศรษฐกิจ
สารสนเทศมีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ที่เรียกว่า เศรษฐกิจบนฐานความรู้
-ด้านวัฒนธรรม
สารสนเทศเป็นรากฐานที่จำเป็นสำหรับความก้าวหน้าของอารยธรรม สารสนเทศช่วยสืบทอด ค่านิยม ทัศนคติ ศิลปะและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติ
บทบาทเทคโนโลยีสารสนเทศต่อการศึกษา
ขณะนี้เกือบทุกประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาคุณภาพประชาชนโดยเน้นที่การศึกษาโดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศบมาใช้และเน้นการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้เป็นระบบกลางที่มีราคาถูกเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชน
วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
แนวคิดและแนวโน้มเกี่ยวกับข้อมูลสารสนเทศยุคใหม่
ความหมาย
สารสนเทศหรือสารนิเทศ หมายถึง ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ เรื่องราว ข้อเท็จจริงที่ผ่านการประมวลผลและสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้
ความสำคัญ
สารสนเทศเป็นปัจจัยที่สำคัญในโลกปัจจุบัน การกำหนดแนวทางการพัฒนา นโยบายทางด้านการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา สังคมและวัฒนธรรมซึ่งสารสนเทศเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาด้านต่าง ๆ
ประเภทของสารสนเทศ
1. สารสนเทศจำนนกตามแหล่งสารสนเทศ เป็นการจำแนกสารสนเทศตามการรวบรวม
-แหล่งปฐมภูมิ คือ สารสนเทศที่ได้มาจากต้นแหล่งโดยตรง
-แหล่งทุติยภูมิ คือ สารสนเทศที่รวบรวมขึ้นใหม่จากแหล่งสารสนเทศปฐมภูมิ
-แหล่งตติยภูมิ คือ สารสนเทศที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการค้นหาสารสนเทศจากแหล่งปฐมภูมิและทุติยภูมิ
2. สารสนเทศจำแนกตามสื่อที่จัดเก็บ เป็นการจำแนกสารสนเทศตามชนิดของสื่อที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ได้แก่ กระดาษ วัสดุย่อส่วน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสื่อแสง
คุณสมบัติของสารสนเทศ
1.สามารถเข้าถึงได้ง่าย
2.มีความถูกต้อง
3.มีความครบถ้วน
4.ความเหมาะสม
5.ความทันต่อเวลา
6.ความชัดเจน
7.ความยืดหยุ่น
8.ความสามารถในการพิสูจน์ได้
9.ความซ้ำซ้อน
10.ความไม่ลำเอียง
แหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศ
1.แหล่งสารสนเทศที่เป็นสถาบัน คือ สถานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อจัดหารวบรวมวัสดุสารสนเทศชนิดต่าง ๆ
2.แหล่งสารสนเทศที่เป็นสถานที่ คือ แหล่งสารสนเทศที่เป็นสถานที่จริงซึ่งผู้ใช้สามารถหาความรู้จากสถานที่นั้นได้
3.แหล่งสารสนเทศที่เป็นบุคคล ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้รอบรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ
4.แหล่งสารสนเทศที่เป็นเหตุการณ์ ได้แก่ กิจกรรมต่าง ๆที่เกิดขึ้น
5.แหล่งสารสนเทศสื่่อมวลชน ซึ่งเป็นแหล่งที่มุ่งเผยแพร่สารสนเทศ ที่เป็นเหตุการณ์ ข่าวสาร
6.แหล่งสารสนเทศที่เป็นอินเตอร์เน็ต เป็นแหล่งสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ทรัพยากรสารสนเทศ
1.ทรัพยากรตีพิมพ์ เป็นสารสนเทศที่มีลักษณะเป็นเเผ่นหรือรูปเล่มที่ตีพิมพ์ในกระดาษ มีขนาดต่าง ๆและมีหลากหลายรูปแบบ เช่น หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ จุลสาร และกฤตภาค
2.ทรัพยากรไม่ตีพิมพ์ คือ ทรัพยากรสารสนเทศที่มีลักษณะสำคัญ ที่แตกต่างจากทรัพยการตีพิมพ์ ที่ให้สารสนเทศความรู้ผ่านประสาทสัมผัสทางหู ตา ด้วยการดูและการฟังทำให้สื่อความหมายเข้าใจง่าย เช่น ทัศนวัสดุ โสตวัสดุ โสตทัศนวัสดุ
3.สื่ออิเล็กทรอนิกส์ คือการจัดเก็บสารสนเทศที่อยู่ในรูปของดิจิทัล ซึ่งเป็นสัญญาณไฟฟ้าในระบบคอมพิวเตอร์นั่นเอง ได้แก่ ฐานข้อมูลออฟไลน์ ฐานข้อมูลออนไลน์
สารสนเทศหรือสารนิเทศ หมายถึง ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ เรื่องราว ข้อเท็จจริงที่ผ่านการประมวลผลและสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้
ความสำคัญ
สารสนเทศเป็นปัจจัยที่สำคัญในโลกปัจจุบัน การกำหนดแนวทางการพัฒนา นโยบายทางด้านการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา สังคมและวัฒนธรรมซึ่งสารสนเทศเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาด้านต่าง ๆ
ประเภทของสารสนเทศ
1. สารสนเทศจำนนกตามแหล่งสารสนเทศ เป็นการจำแนกสารสนเทศตามการรวบรวม
-แหล่งปฐมภูมิ คือ สารสนเทศที่ได้มาจากต้นแหล่งโดยตรง
-แหล่งทุติยภูมิ คือ สารสนเทศที่รวบรวมขึ้นใหม่จากแหล่งสารสนเทศปฐมภูมิ
-แหล่งตติยภูมิ คือ สารสนเทศที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการค้นหาสารสนเทศจากแหล่งปฐมภูมิและทุติยภูมิ
2. สารสนเทศจำแนกตามสื่อที่จัดเก็บ เป็นการจำแนกสารสนเทศตามชนิดของสื่อที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ได้แก่ กระดาษ วัสดุย่อส่วน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสื่อแสง
คุณสมบัติของสารสนเทศ
1.สามารถเข้าถึงได้ง่าย
2.มีความถูกต้อง
3.มีความครบถ้วน
4.ความเหมาะสม
5.ความทันต่อเวลา
6.ความชัดเจน
7.ความยืดหยุ่น
8.ความสามารถในการพิสูจน์ได้
9.ความซ้ำซ้อน
10.ความไม่ลำเอียง
แหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศ
1.แหล่งสารสนเทศที่เป็นสถาบัน คือ สถานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อจัดหารวบรวมวัสดุสารสนเทศชนิดต่าง ๆ
2.แหล่งสารสนเทศที่เป็นสถานที่ คือ แหล่งสารสนเทศที่เป็นสถานที่จริงซึ่งผู้ใช้สามารถหาความรู้จากสถานที่นั้นได้
3.แหล่งสารสนเทศที่เป็นบุคคล ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้รอบรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ
4.แหล่งสารสนเทศที่เป็นเหตุการณ์ ได้แก่ กิจกรรมต่าง ๆที่เกิดขึ้น
5.แหล่งสารสนเทศสื่่อมวลชน ซึ่งเป็นแหล่งที่มุ่งเผยแพร่สารสนเทศ ที่เป็นเหตุการณ์ ข่าวสาร
6.แหล่งสารสนเทศที่เป็นอินเตอร์เน็ต เป็นแหล่งสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ทรัพยากรสารสนเทศ
1.ทรัพยากรตีพิมพ์ เป็นสารสนเทศที่มีลักษณะเป็นเเผ่นหรือรูปเล่มที่ตีพิมพ์ในกระดาษ มีขนาดต่าง ๆและมีหลากหลายรูปแบบ เช่น หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ จุลสาร และกฤตภาค
2.ทรัพยากรไม่ตีพิมพ์ คือ ทรัพยากรสารสนเทศที่มีลักษณะสำคัญ ที่แตกต่างจากทรัพยการตีพิมพ์ ที่ให้สารสนเทศความรู้ผ่านประสาทสัมผัสทางหู ตา ด้วยการดูและการฟังทำให้สื่อความหมายเข้าใจง่าย เช่น ทัศนวัสดุ โสตวัสดุ โสตทัศนวัสดุ
3.สื่ออิเล็กทรอนิกส์ คือการจัดเก็บสารสนเทศที่อยู่ในรูปของดิจิทัล ซึ่งเป็นสัญญาณไฟฟ้าในระบบคอมพิวเตอร์นั่นเอง ได้แก่ ฐานข้อมูลออฟไลน์ ฐานข้อมูลออนไลน์
แบบฝึกหัด
1.ให้นิสิตหารายชื่อเว็บไซต์หรือเทคโนโลยีที่ให้บริการต่างๆ ตามหัวข้อเหล่านี้มาอย่างละ 3 รายการ
1.1การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา
-การสอนทางไกลผ่านดาวเทียม
-ระบบฐานข้อมูลการศึกษา
-ระบบสารสนเทศเอกสาร
1.2การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพธุรกิจ
-ระบบสารสนเทศในงานตรวจสอบรายได้ประจำวัน
-ระบบสารสนเทศในงานสรุปรายได้ประจำวัน
-ระบบสารสนเทศในงานลูกหนี้
1.3การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในทางการแพทย์
-การลงทะเบียนผู้ป่วย ตั้งแต่เริ่มทำบัตร จ่ายยา เก็บเงิน
-สามารถให้คำปรึกษาทางไกลโดยแพทย์ผู้ชำนาญ
-ช่วยในการให้ความรู้แก่ประชาชนของแพทย์หรือหน่วยงานสาธารณสุข
2.มหาวิทยาลัยมหาสารคามเตรียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้กับท่านมีอะไรบ้าง
1.1การให้บริการทางด้านข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการศึกษา
1.2การลงทะเบียนเรียน
1.3แหล่งค้นคว้าข้อมูลต่างด้านต่าง ๆ เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด
3.จงวิเคราะห์ว่าท่านจะเอาเทคโนโลยีเหล่านั้นมาทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไร
1.1ค้นคว้าข้อมูลต่าง ๆ ที่เราสนใจที่จะศึกษา
1.2ใช้ในการเรียน การลงทะเบียนเรียน
1.3ใช้ในการทำงานหรือเป็นที่ติดต่อกับบุคคลอื่น
1.1การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา
-การสอนทางไกลผ่านดาวเทียม
-ระบบฐานข้อมูลการศึกษา
-ระบบสารสนเทศเอกสาร
1.2การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพธุรกิจ
-ระบบสารสนเทศในงานตรวจสอบรายได้ประจำวัน
-ระบบสารสนเทศในงานสรุปรายได้ประจำวัน
-ระบบสารสนเทศในงานลูกหนี้
1.3การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในทางการแพทย์
-การลงทะเบียนผู้ป่วย ตั้งแต่เริ่มทำบัตร จ่ายยา เก็บเงิน
-สามารถให้คำปรึกษาทางไกลโดยแพทย์ผู้ชำนาญ
-ช่วยในการให้ความรู้แก่ประชาชนของแพทย์หรือหน่วยงานสาธารณสุข
2.มหาวิทยาลัยมหาสารคามเตรียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้กับท่านมีอะไรบ้าง
1.1การให้บริการทางด้านข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการศึกษา
1.2การลงทะเบียนเรียน
1.3แหล่งค้นคว้าข้อมูลต่างด้านต่าง ๆ เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด
3.จงวิเคราะห์ว่าท่านจะเอาเทคโนโลยีเหล่านั้นมาทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไร
1.1ค้นคว้าข้อมูลต่าง ๆ ที่เราสนใจที่จะศึกษา
1.2ใช้ในการเรียน การลงทะเบียนเรียน
1.3ใช้ในการทำงานหรือเป็นที่ติดต่อกับบุคคลอื่น
วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)